สรุปบทสัมภาษณ์ของคุณปภาดา อมรนุรัตน์กุล (Goople)  “เปิดโลกการค้นหา Search Marketing Trends 2022 กับ ฟ้าใส By ศิริวรรณ”

.

ก่อนจะไปรู้ว่า Search Marketing Trends 2022 เป็นอย่างไร เราไปรู้จักกับ Search Engine ของโลกกันก่อน การค้นหาบนโลกออนไลน์ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1994 หรือ ประมาณ 28 ปีที่แล้ว ซึ่งรู้จักกันในนาม Yahoo!Search โดยในยุคนั้น ซึ่งมีการเก็บข้อมูล เป็นหมวดหมู่ และ Directory ต่างๆ ดังนั้น เวลาที่เราจะค้นหาข้อมูลอะไรแต่ละที เราจะต้องรู้ว่า จะต้องเข้าหมวดหมู่ไหน และลงลึกไปในหมวดหมู่นั้นไปเรื่อยๆ จนกว่า จะเจอข้อมูลที่ต้องการ เช่น ถ้าต้องการจะรู้จัก ดาราสักคน เราจะเข้าไปที่ หมวดหมู่ บุคคลและผู้มีชื่อเสียง > ศิลปินดารา-นักร้อง > นักร้อง > ประเทศที่เกิด > ชื่อศิลปิน เป็นต้น

.

ซึ่งกว่าจะเจอข้อมูลอะไรแต่ละที ใช้เวลาในการค้นหาที่นานมาก และยิ่งถ้าหมวดหมู่สิ่งนั้น ไม่ชัดเจน เราก็ไม่แน่ใจว่า ฐานข้อมูลที่อยู่นั้น ใช่หมวดหมู่ที่เราต้องการจะหาหรือป่าว อย่างตัวอย่าง ขั้นต้น เช่น ดาราคนนั้น มีนักแสดง หรือ นักร้อง? ถ้าผิด ข้อมูลก็อาจจะหาไม่เจอเลยก็ได้

.

โดย 4 ปีต่อมา เราก็เข้าสู่ยุค Google ที่แค่คิดว่า อยากจะค้นหาอะไร ก็ถามอากู๋ เราได้เลย ถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า “คิดอะไรไม่ออก ถาม google ซิจ๊ะ”

ซึ่ง กลายเป็น เครื่องมือการค้นหายอดนิยม อันดับ 1 ของโลก ครองแชมป์ มาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่า จะมี Search Engine อื่นๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Baidu จากประเทศจีน Yandex จากรัสเซีย หรือ Bing จาก ไมโครซอฟต์

.

จนมาถึงยุคปัจจุบัน Search Marketing ปี 2022 (2565)  การค้นหาเริ่มเปลี่ยนไป เพราะเป็นปีที่ Social Media เริ่มเข้ามาครองตลาดการใช้งานของผู้ใช้มากกว่า 80% ถึงแม้ว่า ผู้คนที่ต้องการจะค้นหายังคงใช้ google เหมือนเดิม แต่หลายคน เริ่มใช้ชีวิตอยู่ใน Social Media ต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้การค้นหาข้อมูลของคนเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมนึกอะไรไม่ออก พิมพ์ถาม google ปัจจุบัน แค่นึกในใจ โฆษณาก็ปรากฎให้เราทาง Facebook แล้ว ที่หลายๆ คนสงสัยว่า แค่นึกเฉยๆ facebook รู้ได้ไง? 555
.
การค้นหาของคนก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะเรามีความรู้มากขึ้น ทำไมการค้นหาในปัจจุบันนี้ เริ่มเป็นในลักษณะ เฉพาะเจาะจง หรือ Long tail Keywords มากขึ้น

เช่น ถ้าต้องการจองโรงแรม คนส่วนใหญ่ จะเข้าไปค้นหาโรงแรมที่ Agoda หรือ ถ้าต้องการจะซื้อสินค้า คนก็จะเข้าไปที่ app shopee, lazada เลย แต่ถ้าเราไม่รู้อะไรเลย คนก็ยังคงเข้าไปค้นหาใน google อยู่ดี แต่จะมีการค้นหาแบบเจาะจงมากขึ้น เช่น “โรงแรม xx pantip” เพื่อดู review ที่มีคนเขียนใน pantip แบบนี้เป็นต้น

จากพฤติกรรม ที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาบนโลกออนไลน์ ไปกับ Social Media เป็นจำนวนมาก ทำให้การตลาดต้องเปลี่ยนไป คือ หันไปใช้ “Push & Pull Marketing” เพิ่มมากขึ้น

.

Pull Marketing คือ การตลาดแบบตั้งรับ หรือ รอให้คนค้นหาแล้วมาเจอเราเอง เช่น google แน่นอนว่า เราต้องทำให้ เว็บไซต์ หรือข้อมูลของเรา ค้นหาจาก google ด้วย คำค้นหาที่เราต้องการ

Push Marketing คือ การตลาดเชิงรุก คือ พยายามเปลี่ยนคนทั่วไป ให้สนใจในสินค้าหรือบริการของเรา เช่น เราเล่น facebook อยู่ แล้วก็ขึ้น Ads ถึงส้มไหว้พระ ช่วงตรุษจีน ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้อยากได้ แต่ Ads ก็แสดงผลให้เราเห็นและกระตุ้นความอยากได้ของเราขึ้นมา